



แม้ว่าหัวหิน จะเป็นสถานตากอากาศยอดนิยมที่ประจวบคีรีขันธ์ แต่เพระความดังนี่แหละที่เป็นเหตุให้หัวหิน คึกคักมากจนเกินความจำเป็นในบางครั้ง พลอยทำให้คนที่อยากมาพักผ่อน เพื่อหาความสงบจริง ๆ ต้องเสาะแสวงหาที่เที่ยวแห่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา และที่นั่นก็คือ ที่ปราณบุรีนี่เอง
ปราณบุรี เป็นอำเภอที่อยู่ไม่ไกลจากอำเภอหัวหินนัก ขับรถเถลไถลไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงบริเวณชายหาดปากน้ำปราณที่มีรีสอร์ทเก๋ ๆ เรียงรายให้เลือกเข้าไปพักผ่อนมากมาย ฉันมาปราณบุรีหลายครั้งแต่ที่พักที่สมัครใจไปขออาศัยอยู่ด้วยมากที่สุด คือฟอเรสต้า รีสอร์ท ด้วยพี่เจี๊ยบเจ้าของรีสอร์ทนั้นมีน้ำใจเป็นที่สุด พอรู้ว่าเราจะมาก็เตรียมให้พี่แขก พ่อครัวหัวป่าก์ตั้งวงข้าวรอเลย แบบนี้รักกันตาย...แต่ก่อนจะไปที่ฟอเรสต้าฯนั้นเราก็แวะไปเมียงมองรีสอร์ทอื่น ๆ ที่ผุดขึ้นมาไม่ว่าเล่น มีทั้งที่เจ้าของเป็นคนในพื้นที่อย่างพี่เจี๊ยบ หรือเจ้าของเป็นคนกรุงเทพฯ แต่มีสตางค์มาซื้อที่ทางแถวนี้ทำรีสอร์ท ไว้ให้คนกรุงเทพฯ ด้วยกันมานอนเล่นเอาบรรยากาศ ราคาที่พักเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วที่ปราณบุรียังถูกกว่าที่หัวหินพอสมควร แต่หากพูดถึงการออกแบบ หรือลูกเล่นต่าง ๆ ที่มีอยู่ในรีสอร์ทนั้นก็ต้องบอกให้แบบไม่ได้เอาใจคนปราณบุรีเลยว่ารีสอร์ทที่ปราณบุรีนั้น เริ่ด ไม่แพ้ทางหัวหินเลยเชียว
ปราณบุรี เป็นอำเภอที่อยู่ไม่ไกลจากอำเภอหัวหินนัก ขับรถเถลไถลไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงบริเวณชายหาดปากน้ำปราณที่มีรีสอร์ทเก๋ ๆ เรียงรายให้เลือกเข้าไปพักผ่อนมากมาย ฉันมาปราณบุรีหลายครั้งแต่ที่พักที่สมัครใจไปขออาศัยอยู่ด้วยมากที่สุด คือฟอเรสต้า รีสอร์ท ด้วยพี่เจี๊ยบเจ้าของรีสอร์ทนั้นมีน้ำใจเป็นที่สุด พอรู้ว่าเราจะมาก็เตรียมให้พี่แขก พ่อครัวหัวป่าก์ตั้งวงข้าวรอเลย แบบนี้รักกันตาย...แต่ก่อนจะไปที่ฟอเรสต้าฯนั้นเราก็แวะไปเมียงมองรีสอร์ทอื่น ๆ ที่ผุดขึ้นมาไม่ว่าเล่น มีทั้งที่เจ้าของเป็นคนในพื้นที่อย่างพี่เจี๊ยบ หรือเจ้าของเป็นคนกรุงเทพฯ แต่มีสตางค์มาซื้อที่ทางแถวนี้ทำรีสอร์ท ไว้ให้คนกรุงเทพฯ ด้วยกันมานอนเล่นเอาบรรยากาศ ราคาที่พักเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วที่ปราณบุรียังถูกกว่าที่หัวหินพอสมควร แต่หากพูดถึงการออกแบบ หรือลูกเล่นต่าง ๆ ที่มีอยู่ในรีสอร์ทนั้นก็ต้องบอกให้แบบไม่ได้เอาใจคนปราณบุรีเลยว่ารีสอร์ทที่ปราณบุรีนั้น เริ่ด ไม่แพ้ทางหัวหินเลยเชียว







ชายหาดที่ปราณบุรีนั้นค่อนข้างสงบเสงี่ยมเจียมตน ไม่วุ่นวายฟู่ฟ่าเหมือนหัวหิน พอตกกลางคืนหลังจากอิ่มหนำกับอาหารทะเลสดอร่อยที่มีให้เลือกชิมอยู่หลายร้านแล้ว เราก็นึกไม่ออกเลยว่าจะไปต่อที่ไหนดี จะไปสถานบันเทิงยามค่ำคืนก็ต้องขับรถกลับไปถึงหัวหินนู่น ดังนั้นพวกเราจึงสมัครใจกันนั่งรับลมเย็น ๆ ริมทะเลปราณบุรีแทน ได้นั่งดูแสงไฟวับแวมจากเรือไดหมึกที่ออกไปหาปลาในยามค่ำคืนก็เป็นความสุขไปอีกแบบเหมือนกัน แม้จะไม่มีเสียงอึกทึกเหมือนในผับอย่างที่เคยคุ้นก็ตาม แต่แล้วจู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งก็พูดทำลายความเงียบขึ้นว่า อยากจะออกเรือไปตกหมึกกับเขาบ้างจัง น่าสนุกดีนะ...แต่เสียใจด้วยจ้ะ เพราะป่านนี้เรือของชาวประมงเขาก็ลอยลำออกไปกลางทะเลหมดแล้วล่ะ เนื่องจากเขาออกเรือกันไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วกว่าจะกลับก็รุ่งเช้า เพื่อนำกุ้งหอยปูปลาที่จับได้มาขายที่บริเวณชายหาดนั่นเอง ไว้เราไปช้อปปิ้งปลาหมึกที่หมู่บ้านชาวประมงพรุ่งนี้แทนแล้วกัน



ตำบลปากน้ำปราณ เดิมมีเชื่อเรียกว่า "ปากคลองปราณ" เนื่องจากมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านลงสู่ปากอ่าวทะเล และยังเป็นที่ตั้งสมาคมประมงแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ปากน้ำปราณ" จนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบ มีแนวยาวลงติดต่อกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มีพื้นที่ภูเขาสลับกับที่ราบลงสู่ทะเล เป็นดินปนทรายมีชายหาดทอดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 2.5 ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2.5 ตารางกิโลเมตร ภูมิอากาศเป็นแบบมรสุม มีฝนตกตลอดทั้งปี อากาศเย็นสบายและมีลมทะเลพัดผ่าน
อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดกับ ต.เขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ทิศใต้ ติดกับ ต.สามร้อยยอด กิ่ง อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทิศตะวันออก ติดกับ อ่าวไทยทิศตะวันตก ติดกับ ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปของตำบลปากน้ำปราณ เป็นที่ราบ มีแนวยาวลงมาติดต่อกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทย เป็นพื้นที่ภูเขาสลับกับที่ราบเทลงสู่ทะเล พื้นที่เป็นดินปนทรายมีชายหาดยาวประมาณ 2กิโลเมตร และมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านลงสู่อ่าวไทย
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะทางภูมิอากาศเป็นแบบมรสุม มีฝนตกตลอดทั้งปี อากาศเย็นสบาย และมีลมทะเลพัดผ่าน มี 3 ฤดู คือ - ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ - มิถุนายน - ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์
No comments:
Post a Comment