Tuesday, June 23, 2009

ยังจำ..นิทาน.. ทรพี -ทรพา.มารื้อฟื้นกันหน่อย

เรื่องทรพี-ทรพา กันได้แค่ไหนล่ะ ย่อๆ ไว้หน่อย เผื่อแฟน "ทรพี-ทรพา ยุค 2009"
เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า พระอิศวร หรือพระศิวะนั่นแหละ มี ทส.อยู่ตนชื่อ "ยักษ์นนทกาล" แต่เจ้ายักษ์ปากห้อย ตาโปนนี้เหิมเกริมไปมีจิตพิศวาสเลเพลาดพาดไปโลมเลียนางอัปสร พระอิศวรรู้เข้าเลยสาป อุเหม่มมมม....ให้ลงไปเกิดเป็นควายเผือกชื่อ "ทรพา" แค่นั้นไม่สะใจ พระอิศวรยังสาปให้มีลูกชื่อ "ทรพี" แล้วให้เจ้าทรพีนี้ฆ่าพ่อ ลูกขวิดตายเมื่อไหร่ เมื่อนั้นจึงจะพ้นคำสาป กลับมาเกิดเป็นยักษ์นนทกาลปากห้อย ตาโปน นั่งโหน ยืนโหน เป็นยามเฝ้าปราสาทพระอิศวรต่อไป

ยักษ์นนทกาลลงมาเกิดเป็นควายทรพา ก็ได้เมียควายจนมีลูกหลายตัว แต่คลอดตัวไหนออกมาเป็นตัวผู้ ทรพาจะขวิดตายเรียบ เพราะกลัวว่าถ้าไม่ฆ่ามันก่อน โตขึ้นมา มันก็จะย้อนมาฆ่าพ่อ จนกระทั่งคลอดทรพีออกมานั่นแหละ นางเมียควายก็แอบพาทารกทรพีไปฝากให้เทวดาเลี้ยงอยู่ในถ้ำ จนกระทั่งล่ำใหญ่ เจ้าทรพีหนุ่มก็ออกดมหารอยตีนพ่อ เจอแล้วก็เอาตีนตัวเองลงไปวัด อ้อ..ตีนยังเล็กกว่า ก็ยอมยกให้เป็นพ่อไปก่อน ลูกเอาตีนทาบรอยตีนพ่อเป็นระยะ จนกระทั่งทรพีตีนใหญ่เท่าทรพาผู้พ่อ ก็ไปอยู่กับอภิสิทธิ์...เอ๊ย..สับสนคนละคัมภีร์แล้ว ขอโทษ..ขอโทษ..ก็ไปท้าพ่อออกมาขวิดประลองคมเขาแข่งกัน ปรากฏว่าทรพาควายแก่ จะ ๖๐ เดือนหน้าอยู่รอมร่อ เลยถูกควายหนุ่มผู้เป็นลูกขวิดพ่อตาย สมดังคำสาปพระอิศวร!

ทรพีเมื่อฆ่าพ่อคาสนามเลือกตั้ง เอ๊า..ผิดอีกแล้ว เมื่อฆ่าพ่อได้แล้วก็ลำพองในพลังเขา ไม่รู้ต่ำ-ไม่รู้สูงตามประสาควาย เผ่นขึ้นไปท้าพระอิศวรให้มาขวิดสู้กัน พระอิศวร ซึ่งได้ชื่อว่า "พระผู้ทำลาย" จึงส่งให้พาลีกับสุครีพไปจัดการซะ พร้อมกับสาปว่า ให้มันตายในมือพญาวานร พาลีสู้กับเจ้าทรพีอยู่ตั้ง ๗ วัน ๗ คืน ก็ยังไม่แพ้-ไม่ชนะกัน พาลีจึงถามทรพีว่า "เฮ้ย..ไอ้ควาย เอ็งมีเทวดาคุ้มครองเขาหรือยังไงวะ ถึงได้มีฤทธิ์มากมายนัก?" เจ้าทรพีได้ยินก็แสยะยิ้มยืดปากห้อยร้องมอ..มอ.. เชิดเขาขึ้นตามวิสัยไอ้ทรพีฆ่าพ่อ ตอบว่า "เฮ่ย..เทวดง-เทวดาที่ไหนคุ้มครอง ข้าเก่งของข้าเองโว้ย" ฝ่ายพาลีจอมลิงได้ยินเช่นนั้นก็คันประหนึ่งว่าหัวเป็นหิด ตัวเป็นเหาเกาคะเยอ ตวาดออกไป "เจี๊ยกกกก...เจี๊ยกเจี๊ยกเจี๊ยก ไอ้ควายเนรคุณ ท่านเทวดาที่คุ้มครองก็ได้ยินแล้วใช่มั้ยว่าเจ้าทรพีมันไม่ได้สำนึกในบุญคุณของท่านเลย ขอพวกท่านอย่าได้โปรดคุ้มครองมันอีกต่อไปเลย เจี๊ยกกกก...เจี๊ยกเจี๊ยกเจี๊ยก"

ฝ่ายเทวดาที่อภิบาลรักษาเจ้าทรพีมาตั้งแต่ฝ่าตีนเท่าจุกนมนุก จนโตเท่าฝากระป๋องนมตราหมี เมื่อได้ยินพญาวานรว่าดังนั้น ก็พากันเลิกแผ่พลังคุ้มครองควายทรพี แล้วพญาวานรพาลีก็ฆ่าเจ้าทรพีตายในบัดดล

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คบทรพีอย่าวางใจ เพื่อความเป็นใหญ่ ฆ่าพ่อคนแรกได้ มันก็ต้องฆ่าพ่อคนต่อๆ ไป และจะไปตายกับมือคนปีวอก...จบ

หมอเกาหลีนี่....ขั้นเทพจริงๆ















































































Thursday, June 18, 2009

มะรุม พืชมหัศจรรย์

มะรุม พืชมหัศจรรย์
เขียนโดย D.Healer เมื่อ 17 เมษายน 2008 - 04:55pm
มะรุม เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในหลายด้าน เช่น ราก จะมีรสเผ็ด หวาน ขม แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ เปลือก จะมีรสร้อน ช่วยขับลม ใบ ช่วยแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ ดอก ช่วยบำรุงร่างกาย ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฝัก รสหวาน แก้ไข้หรือลดไข้ เป็นต้น
ส่วนที่ใช้ : เปลือกต้น ราก ฝัก ใบ เนื้อในเมล็ดสรรพคุณ :
ฝัก - ปรุงเป็นอาหารรับประทานแก้ไข้หัวลม เปลือกต้น - มีรสร้อน รับประทานเป็นยาขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ คุมธาตุอ่อนๆ (ตัดต้นลมดีมาก)
ราก - มีรสเผ็ด หวานขม แก้บวม บำรุงไฟธาตุ มีคุณเสมอกับกุ่มบก - แก้พิษ ฝี แก้ปวด แก้อักเสบแพทย์ตามชนบท ใช้เปลือกมะรุมสดๆ ตำบุบพอแตกๆ อมไว้ข้างแก้ม แล้วรับประทานสุราจะไม่รู้สึกเมาเลย
จากประสบการณ์ เนื้อในเมล็ดมะรุม ใช้แก้ไอได้ดี ใบสดมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ มีแคลเซียม วิตามินซี แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก การรับประทานเนื้อในเมล็ด และใบสดเป็นประจำสามารถเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายได้
ข้อควรระวัง ในคนที่เป็นโรคเลือด G6PD ไม่ควรรับประทาน
"มะรุม" มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Moringa oleifera Lam. วงศ์ Moringaceae เป็นพืชกำเนิดแถบใต้เชิงเขาหิมาลัย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่ถูกปลูกไว้ในบริเวณบ้านไทยมาแต่โบราณ กินได้หลายส่วน ทั้งยอด ดอก และฝักเขียว แต่ใครๆ ก็นิยมกินฝักมากกว่าส่วนอื่นๆ ต้นมะรุมพบได้ทุกภาคในประเทศไทย ทางอีสานเรียก “ผักอีฮุม หรือผักอีฮึม” ภาคเหนือเรียก “มะค้อมก้อน” ชาวกะเหรี่ยงแถบกาญจนบุรีเรียก “กาแน้งเดิง” ส่วนชานฉานแถบแม่ฮ่องสอนเรียก “ผักเนื้อไก่” เป็นต้น
ผู้เฒ่าผู้แก่นิยมกินมะรุมในช่วงต้นหนาวเพราะเป็นฤดูกาลของฝักมะรุม หาได้ง่าย รสชาติอร่อยเพราะสดเต็มที่ มีขายตามตลาดในช่วงฤดูกาล คนที่ปลูกมะรุมไว้ในบ้านเท่านั้นจึงจะมีโอกาสลิ้มรสยอดมะรุม ใบอ่อน ช่อดอกและฝักอ่อน ช่อดอกนำไปดองเก็บไว้กินกับน้ำพริก ยอดมะรุม ใบอ่อน ช่อดอก และฝักอ่อนนำมาลวกหรือต้ทให้สุก จิ้มกับน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกแจ่วบอง กินแนมกับลาบ ก้อย แจ่วได้ทุกอย่าง หรือจะใช้ยอดอ่อน ช่อดอกทำแกงส้มหรือแกงอ่อมก็ได้
ส่วนอื่นๆ ของโลกจะใช้ใบมะรุมประกอบอาหารเช่นเดียวกับการใช้ผักขมฝรั่ง หรือปรุงเป็นซอสข้นราดข้าวหรืออาหารแป้งอื่นๆ นอกจากนี้ ใช้ใบตากแห้งป่นเก็บไว้ได้นานโรยอาหาร เช่นเดียวกับที่ภูมิปัญญาอีสานจังหวัดสกลนครใช้ใบมะรุมแห้งปรุงเข้าเครื่อง “ผงนัว” กับสมุนไพรอื่นไว้แต่งรสอาหารมาแต่โบราณ ส่วนฝักอ่อนปรุงอาหารเหมือนถั่วแขก
คุณค่าทางอาหารของมะรุม มะรุมเป็นพืชมหัศจรรย์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด กล่าวถึงในคัมภีร์ใบเบิ้ลว่าเป็นพืชที่รักษาทุกโรค ใบมะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน นอกจากนี้ มะรุมมีธาตุอาหารปริมาณสูงเป็นพิเศษที่ช่วยป้องกันโรค นั่นคือ
วิตามินเอ บำรุงสายตามีมากกว่าแครอต 3 เท่า วิตามินซี ช่วยป้องกันหวัด 7 เท่าของส้ม แคลเซียม บำรุงกระดูกเกิน 3 เท่าของนมสด โพแทสเซียม บำรุงสมองและระบบประสาท 3 เท่าของกล้วย ใยอาหารและพลังงาน ไม่สูงมากเหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักอีกด้วย น้ำมันสกัดจากเมล็ดมะรุม มีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันมะกอกดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
จากอาหารมาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นผลิตชาใบมะรุมออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบุว่าใช้แก้ไขปัญหาโรคปากนกกระจอก หอบหืด อาการปวดหูและปวดศรีษะ ช่วยบำรุงสายตา ระบบทางเดินอาหาร และช่วยระบายกาก ประเทศอินเดีย หญิงตั้งครรภ์จะกินใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก แต่ที่ประเทศที่ฟิลิปปินส์และบอสวานาหญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะกินแกงจืดใบมะรุม (ภาษาฟิลิปปินส์ เรียก “มาลังเก”) เพื่อประสะน้ำนมและเพิ่มแคลเซียมให้กับน้ำนมแม่เหมือนกับคนไทย
ประโยชน์ของมะรุม1.ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดได้เป็นอย่างดี2.ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้3.รักษาโรคความดันโลหิตสูง4.ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อHIV นอกจากนี้ถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งยังช่วยให้คนทั่วๆไปสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง5.ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ การรักษาโรคเอดส์ที่ประสพผลสำเร็จในกลุ่มประเทศแอฟริกา6.ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบันหากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง7.ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์ โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม8.รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์9.รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้10.รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ11.เป็นยาปฏิชีวนะ
น้ำมันมะรุมสรรพคุณ..ใช้หยอดจมูกรักษาโรคภูมิแพ้ ไซนัสโรคทางเดินหายใจ ใช้หยอดหูฆ่าและป้องกันพยาธิในหู รักษาอาการเยื่อบุหูอักเสบ รักษาโรคหูน้ำหนวก ใช้ทาผิวหนังรักษาโรคผิวหนังจากเชื้อราและเชื้อไวรัส รักษาโรคเริม งูสวัด รักษาและบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ใช้ทารักษาแผลสด หูด ตาปลา ใช้ถูนวดบรรเทาอาการบริเวณที่ปวดบวมตามข้อ รักษาโรคไขข้ออักเสบ เก๊าท์ รูมาติก เป็นต้น
ชะลอความแก่ กล่าวกันว่ามะรุมมีฤทธิ์ชะลอความแก่ เนื่องจากยังไม่พบรายงานการวิจัยเกี่ยวกับมะรุมในด้านนี้ คาดว่าเป็นการสรุปเนื่องจากมะรุมมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญคือ รูทินและเควอเซทิน (rutin และ quercetin) สารลูทีนและกรดแคฟฟีโอลิลควินิก (lutein และ caffeoylquinic acids) ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ ดูแลอวัยวะต่างๆ ได้แก่ จอประสาทตา ตับ และหลอดเลือดจากการเสื่อมสภาพตามอายุ การกินสารต้านอนุมูลอิสระชะลอการเสื่อมสภาพในเซลล์ร่างกาย
ฆ่าจุลินทรีย์ สารเบนซิลไทโอไซยาเนตโคไซด์และเบนซิลกลูโคซิโนเลตค้นพบในปี พ.ศ. 2507 จากมะรุมมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ สนับสนุนการใช้น้ำคั้นจากมะรุมหยอดหูแก้ปวดหู ปัจจุบันหลังจากค้นพบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร Helicobactor pylori กำลังมีการศึกษาสารจากมะรุมในการต้านเชื้อดังกล่าว
การป้องกันมะเร็ง สารเบนซิลไทโอไซยาเนตไกลโคไซด์ชนิดหนึ่งและสารไนอาซิไมซิน (niazimicin) จากมะรุมสามารถต้านการเกิดมะเร็งที่ถูกกระตุ้นโดยสารฟอบอลเอสเทอร์ในเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ การทดลองในหนูพบว่าหนูที่ได้รับฝักมะรุมเป็นอาการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังจากการกระตุ้นน้อยกว่ากลุ่มทดลอง โดยกลุ่มที่กินมะรุมเนื้องอกบนผิวหนังน้อยกว่ากลุ่มควบคุม
ฤทธิ์ลดไขมันและคอเลสเทอรอล จากการทดลอง 120 วัน ให้กระต่ายกินฝักมะรุม วันละ 200 กรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันเทียบกับยาโลวาสแตทิน 6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันและให้อาหารไขมันมาก
ใบมะรุม 100 กรัม (คุณค่าทางโภชนาการของอาหารอินเดีย พ.ศ. 2537) พลังงาน 26 แคลอรี โปรตีน 6.7 กรัม (2 เท่าของนม) ไขมัน 0.1 กรัม ใยอาหาร 4.8 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.7 กรัม วิตามินเอ 6,780 ไมโครกรัม (3 เท่าของแครอต) วิตามินซี 220 มิลลิกรัม (7 เท่าของส้ม) แคโรทีน 110 ไมโครกรัม แคลเซียม 440 มิลลิกรัม (เกิน 3 เท่าของนม) ฟอสฟอรัส 110 มิลลิกรัม เหล็ก 0.18 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 28 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 259 มิลลิกรัม (3 เท่าของกล้วย)
ทั้งนี้ กลุ่มที่กินมะรุมและยามีคอเลสเทอรอลฟอสโฟไลพิด ไตรกลีเซอไรด์ VLDL LDL ปริมาณคอเลสเทอรอลต่อฟอสโฟไลพิด และ atherogenic index ต่ำลง ทั้ง 2 กลุ่มมีการสะสมไขมันในตับ หัวใจ และหลอดเลือดแดงใหญ่ (เอออร์ตา) โดยกลุ่มควบคุมปัจจัยด้านการสะสมไขมันในอวัยวะเหล่านี้ไม่มีค่าลดลงแต่อย่างใด กลุ่มที่กินมะรุมพบการขับคอเลสเทอรอลในอุจจาระเพิ่มขึ้น ผู้วิจัยจึงสรุปว่าการกินมะรุมมีผลลดไขมันในร่างกาย ที่ประเทศอินเดียมีการใช้ใบมะรุมลดไขมันในคนที่มีโรคอ้วนมาแต่เดิม การศึกษาการกินสารสกัดใบมะรุมในหนูที่กินอาหารไขมันสูงมีปริมาณคอเลสเทอรอลในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนี้กลุ่มทดลองมีปริมาณไขมันในตับและไตลดลง สรุปว่าการให้ใบมะรุมเพื่อลดปริมาณไขมันทางการแพทย์อินเดียสามารถวัดผลได้ในเชิงวิทยาศาสตร์จริง
ฤทธิ์ป้องกันตับ งานวิจัยการให้สารสกัดแอลกอฮอล์ของใบมะรุมกรณีทำให้ตับหนูทดลองเกิดความเสียหายโดยไรแฟมไพซิน พบว่าสารสกัดใบมะรุมมีฤทธิ์ป้องกันตับ โดยมีผลกับระดับเอนไซม์แอสาเทตอะมิโนทรานสเฟอเรส อะลานีนทรานมิโนทรานสเฟอเรส อัลคาไลน์ฟอสฟาเทส และบิลิรูบินในเลือด และมีผลกับปริมาณไลพิดและไลพิดเพอร์ออกซิเดสในตับ โดยดูผลยืนยันจากการตรวจชิ้นเนื้อตับ สารสกัดใบมะรุมและซิลิมาริน (silymarin กลุ่มควบคุมบวก) มีผลช่วยการพักฟื้นของการถูกทำลายของตับจากยาเหล่านี้
เอกสารอ้างอิง:
Nature’s Medicine Cabinet by Sanford HolstThe Miracle Tree by Lowell FuglieLA times March 27th 2000 article wrote by Mark Fritz. WWW.PUBMED.GOV. (Search for Moringa) (Antiviral Research Volume 60, Issue 3, Nov. 2003, Pages 175-180: Depts. of Microbiology, Pharmaceutical Botany, Pharmacology, Faculty of Pharmaceutical Science, Chulalongkorn University, Bangkok.
นิตยสารหมอชาวบ้านปีที่ 29 ฉบับที่ 338 มิถุนายน 2550

Sell Sexy Lingerie Factory Price Mordern Fashion

We are a professional sexy lingerie and underwear manufacturer in China. we design, manufacture, and sell sexy lingerie, underwear all over the world...
  
We are a professional sexy lingerie and underwear manufacturer in China. we design, manufacture, and sell sexy lingerie, underwear all over the world. The fashionable sexy lingerie and underwear are supplied include: sexy costumes, gowns, babydolls, mini dress, bridal lingerie, panties, teddy, garter set&corset, stockings, holiday specials, etc. The fashionable sexy lingerie directly from our own factory, the lingerie have top quality, Lower price and more items than any other competitors. Employing experienced workers, introducing top sewing facilities and using luxury fabric, we have earned the respect of all of our customers. Payment: paypal / bank transfer / western union. 1-2days shipping after confirm payment. 5-7days delivery time after confirm payment Tracking delivery status on line time to time when shipping the products Any questions, pls do not hesitate to contact us, we will be of your help in 24 hours

http://sexyloverlingerie.com

How to Find a Supplier in China?

Suppose you come up with a product idea or think you have market channels for certain products, and you want to find a supplier in China because of the low product development cost and low production cost there....
  

Suppose you come up with a product idea or think you have market channels for certain products, and you want to find a supplier in China because of the low product development cost and low production cost there. If you Google the product name or concept, you will find tons of China suppliers/manufacturers. However, you still think you have not got one, because you want to find a capable and reliable one that would satisfy your specific needs and have a strong desire to do business with you. Many people get frustrated because they have been communicating with suppliers in China for months, but fail to move forward. The reason, most likely, is that they did not find the suitable one at the beginning. To successfully find a suitable China supplier, you need a strategy. This strategy will consist of awareness, knowledge and a good amount of homework. Below are some practical steps to find a suitable Chinese supplier for you.
Steps
Understand what you need. You need to first know what is available and have a way to categorize the information. Here are some categories to help you think about Chinese suppliers: manufacturer vs. 3rd-party supplier; Big corporation vs. small family-owned; 3rd-party supplier with in-house product development capability vs. 3rd-party supplier that just buys-in and sells-out; vertically integrated manufacturer vs. assembly-based manufacturer; etc. Properly categorizing the suppliers will help you understand what you need. For example, if you need to import products in a narrow range, you may choose a manufacturer other than a 3rd-party supplier. If you are a small business and need dedicated attention, you may want to develop a good relationship with a small family-owned business.
Do some preliminary internet research to further develop your category system towards your specific needs.
Create a data table to help you record the search result, so the job can be done more efficiently and effectively. The table should include columns like company name, contact information, business scale and scope, category check boxes (important), and notes.
Use search engines to search information related to your product name. The first 100 results would be the most relevant websites related to the product of your concern. You can also find your competitors’ information and develop a better sense of market segment and marketing channels. Besides
Google, you may also want to try several other major engines like Yahoo, MSN and AltaVista .
Use popular business directory websites to obtain very structured information for Chinese suppliers.
Alibaba and Made In China could be the best for finding many Chinese suppliers, their company information, pictures of products and contact information. The directory websites are also excellent resource to obtain industrial knowledge.
Narrow down the the list of suppliers you want to work with to a manageable amount. At this stage, you may already know what your real needs are and what is available.
Initiate contact with the suppliers you want to work with, and further develop relationships with them. Eventually, you will find the one. The process can be fun and a friendly experience.
Tips
Analyzing the types of suppliers has strategic importance. It will help you to understand where you are, what kind of results to expect, and what are the things you need to take care of in the mutual cooperation. You may want to have an experienced person help you to analyze the information. In your strategy, you will also need to include the consideration of the future contracting and operation. You may seek advice from Chinese professionals who understand the Chinese mentality, culture and business practices. You may get the incorrect interpretation if you visit the supplier’s English website, or you could omit data that contains key information.
Just because a site is ranked higher in Google search listing, this does not necessarily mean it is a more serious business. Some very good Chinese suppliers are not well-versed in having their website listed highly, while some other internet guys can have their website listed very highly. Use your industrial judegment.
Information comes from seemly insignificant data, for example, the email addresses of xyzname@companydomain.com.cn, xyzdkt@online.public.zj.hz.com and ykdfupp23432@hotmail.com may reveal useful information about Chinese suppliers. However, do not judge an address too quickly. You never know where good information can come from.
Be aware that while the decision-maker may not speak any English, establishing good relationship (guanxi) with the top management is crucial for long-term success.
Email is good for exchanging product specifications, catalogue and price list. To establish a deeper relationship, a phone call is 10 times better than email. A personal meeting is 100 times better than a phone call. Many people want to start a business, so you have to show you are more serious. As long as your contact person uses English, you can just go ahead and give that person a phone call. It does not matter how much you and that person can understand each other; you can always follow up with an email.
Work with suppliers that have already exported their products to Europe or the US. Pay attention to the agent relationship. Many manufacturers may have their products exported to the US in good quantity through a third party supplier without an exclusive supply agreement. They may want to have direct channels to the US, and that might mean more business for you.
Warnings
If you send out inquiries through
Alibaba or Made In China , you will get tons of replies from suppliers of all kinds. Some guys may continously send you product info for years, and are able to pass through all sorts spam protection. You may not want to use your primary email account to register with these sites.

http://sexyloverlingerie.com/

all kinds of Sexy Lingerie, Sexy Bikini

As a professional exporting company in china, We only supply great quality products and our variation of products are available in fantastic styles, designs and main markets include Europe, America a...

As a professional exporting company in china, We only supply great quality products and our variation of products are available in fantastic styles, designs and main markets include Europe, America and Australia etc. our mission is to provide good services, quality products at reasonable prices.We thank you for your attention and wish having a long time business relation with all buyers from all over the world.
Sexy Bikini wholesale

http://sexyloverlingerie.com

Sexy lingerie wholesale from China

Buy Sexy Lingerie, Sexy Costumes, School girl, Christmas Costume, Halloween Costume, Valentine Lingerie, Sexy Pirate, Sexy Clubwear, Nurse from China
  
High Quality Sexy Lingerie and Costumes at Competitive Price




Quality Sexy Lingerie and Halloween Costume at Competitive Price
We appreciate your time no matter you are purchasing or just looking. We are happy to introduce ourselves as a famous professional manufacturer and supplier of wholesale sexy lingerie.
QLingerie is a famous brand and specialized manufacturer of sexy clothing in China. We supply the international market with fashionable sexy lingerie and sexy costume since 2005.
Lingerie Wholesale and OEM are welcomed!
Our factory located in Guangzhou Gungdong, where there is one of the largest undergarment manufacturing base in China. QLingerie has standard workshop and production line, professional designers and experienced workers. After years' development, we have strong ability on production, research and technology,advanced facilities that is imported from Germany and Japan.
With high quality, competitive prices and prompt deliveries, our products are selling very well in such global markets as UK, France, USA, Canada, Germany, Australia, Japan and korea. The primary goal of QLingerie is to offer clients with the best and most valuable products.
What We Supply?
Our Major Products includes:
Sexy Lingerie, Sexy Costume, Accessories which contains lots of famous designCorset, Bustier, Babydolls, Teddies, Sleepwear, Panty, Bra, Underwear Set, Clubwear, Gown, Swimwear, Bikini, Bodysuit, Garters, Sexy Skirt, G-string, etc.
Christmas Costume&Lingerie, Halloween Costume, School Girl, Nurse Costume, French Maid, Pirate Costume, Angel & Devil, Police Costume, Cosplay, Cheerleader, Race Girl, Military Costume, Cowgirl Costume, etc.
Sockings, Ears, Gloves, Fence Net, Petticoat, Kitty Kit, Angel&Fairy Wings, etc

Wednesday, June 10, 2009

เผย 26 ยี่ห้อเครื่องสำอาง อันตราย ใช้เสี่ยงหน้าพัง

ผู้จัดการออนไลน์ 30 มกราคม 2551 12:23 น.

อย.ประกาศรายชื่อเครื่องสำอางอีก 26 ยี่ห้อที่ตรวจวิเคราะห์พบสารห้ามใช้กรดวิตามินเอ ปรอทแอมโมเนีย และไฮโดรควิโนน เตือนระวังอย่าซื้อมาใช้ อาจทำให้แพ้ ระคายเคือง ถึงขั้นเสียโฉมได้ ภก.วัฒนา อัครเอกฒาลิน ผู้อำนวยการสำนักควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี ได้ออกเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางตามแหล่งจำหน่าย เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และแผงลอยต่างๆ ส่งตรวจวิเคราะห์หาสารห้ามใช้ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งในปีงบประมาณ 2551 นี้ อย.ได้ประกาศผลการตรวจวิเคราะห์เครื่องสำอางที่พบสารห้ามใช้ไปแล้ว 13 ยี่ห้อ และในครั้งนี้ได้ตรวจพบเครื่องสำอางมีสารห้ามใช้เพิ่มอีก 26 ยี่ห้อ โดยตรวจพบกรดเรทิโนอิก หรือกรดวิตามินเอ ปรอทแอมโมเนีย หรือสารประกอบของปรอท และไฮโดรควิโนน ซึ่งสารห้ามใช้ทั้ง 3 ชนิด ทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และเป็นสาเหตุทำให้หน้าพังได้ จึงขอเตือนประชาชนอย่าซื้อมาใช้เด็ดขาด

สำหรับรายชื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมด มีดังต่อไปนี้ เครื่องสำอางที่ตรวจพบกรดเรทิโนอิกหรือกรดวิตามินเอ ได้แก่
(1) Freshxeena Night Cream วันที่ผลิต 2006/11/27
(2) ไวท์เทนนิ่งครีม ROBISIS Whitening Cream Night Cream วันที่ผลิต 2007/02/27 เครื่องสำอางที่ตรวจพบปรอทแอมโมเนีย หรือสารประกอบของปรอท ได้แก่
(3) KAILI LOVELY M
(4) MINGCHEN DAY CREAM WHITENING CREAM ฉลากระบุผลิตในประเทศไต้หวัน เลขที่ผลิต 6268001E
(5) Plsi Whitening Day Cream เลขที่ผลิต 6268001
(6) บาชิ ครีมกลางคืน ผลิตโดยบริษัท ห้วยโจเขื่อนเอิน คอสเมทิค ประเทศจีน นำเข้าโดยบริษัท ไจโอ นูโอ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ วันที่ผลิต 2007/03/21
(7) ไวท์เทนนิ่งครีม ROBISIS Fade-out Cream Day Cream วันที่ผลิต 2007/02/27
(8) Silver Angel Face Day Cream และ
(9) Gold Angel White Night Cream ผลิตโดยร้านคิงส์เฮิร์บ 325/20 ม.5 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จัดจำหน่ายโดยบริษัท คิงส์เฮิร์บ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เลขที่ผลิต 895 วันที่ผลิต 21-08-50
(10) ครีมชาเขียว DR. Japan ผลิตโดยบริษัท โอเรียวชา (ประเทศญี่ปุ่น) จำกัด จัดจำหน่ายโดยบริษัท บีแอนด์บี คอสเมติก จำกัด
(11) ครีมสมุนไพรขมิ้น M&G ผลิตโดยบริษัท เอ็มแอนด์จี คอสเมติกส์ จำกัด 58 ม.5 กระทุ่มแบน สมุทรสาคร
(12) ชิชาเดะ ครีมหน้าขาวโสมผสมไข่มุกญี่ปุ่น ผลิตโดย ชิชาเดะ โตเกียว คอร์เปอเรชั่น 548-4212 โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นำเข้าโดย บริษัท เจเมด อิมพอร์ต จำกัด
(13) ครีมสมุนไพรโสมจินเหม่ย

เครื่องสำอางที่ตรวจพบไฮโดรควิโนน ได้แก่
(14) DR"s Secret 3 skinlight ฉลากระบุผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา เลขที่ผลิต 0626401
(15) เลนาว ครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืน วันที่ผลิต 2 พ.ค. 2550
(16) โลชั่นปรับสภาพผิวเอสจี (ขายพร้อมมุยลีเฮียงครีมทาสิวฝ้า) ผลิตโดยบริษัท บูมบิซิเนสส์ จำกัด 59 ถ.โรจนะ ม.9 ต.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เลขที่ผลิต 01 วันที่ผลิต 12/01/49
(17) ครีมฝ้าเมลาแคร์ เลขที่ผลิต 592 วันที่ผลิต 05/08/06 และ
(18) โลชั่นกันแดด-กันฝ้า เมลาแคร์ ผสมว่านหางจระเข้ ผลิตโดย บริษัท บี.ซี. คอสเมติคส์ จำกัด 34 ยุคล 1 สวนมะลิ กรุงเทพ
(19) มิสเดย์ ครีมแก้ฝ้าใช้กลางคืน (ขายพร้อมมิสเดย์ ครีมแก้สิว ใช้กลางวัน) ผลิตโดย บริษัท เนเจอร์เฮิร์บ จำกัด 1218/89 ม.6 ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เลขที่ผลิต 0009 วันที่ผลิต 20 ตุลาคม 2549
(20) 3 ทรีเดย์ ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน ครีมลดริ้วรอยหมองคล้ำ-ฝ้า (บรรจุรวมกับ 3 ทรีเดย์ โลชั่นป้องกันแสงแดด-ฝ้า ในกล่องกระดาษสีดำ-ขาว) เลขที่ผลิต 010610 และ 010703 วันที่ผลิต 27012005
(21) 3 ทรีเดย์ ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน โลชั่นป้องกัน แสงแดด-ฝ้า (บรรจุรวมกับ 3 ทรีเดย์ ครีมลดริ้วรอยหมองคล้ำ-ฝ้า ในกล่องกระดาษสีดำ-ขาว) เลขที่ผลิต 010610 และ 010703 วันที่ผลิต 27012005
(22) 3 ทรีเดย์ ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน โลชั่นป้องกันแสงแดด-ฝ้า (บรรจุรวมกับ 3 ทรีเดย์ ครีมลดริ้วรอยหมองคล้ำ-ฝ้า ในกล่องกระดาษสีขาว-ฟ้า-เหลือง) เลขที่ผลิต 010610 วันที่ผลิต 27012005
(23) 3 ทรีเดย์ เนเชอรัล โลชั่นป้องกันแสงแดด-ฝ้า (บรรจุรวมกับ 3 ทรีเดย์ เนเชอรัล ครีมทาสิว สูตรขาวเนียน ในกล่องกระดาษสีขาว-ฟ้า-เหลือง) เลขที่ผลิต 010611 และ 010704 วันที่ผลิต 28012005 โดยลำดับที่ 20 - 23 ผลิตโดยบริษัท ทรีเดย์ (ประเทศไทย) จำกัด 872/1084 ม.18 บางกะปิ กรุงเทพฯ
(24) โลชั่นวินเซิร์ฟ ลดฝ้า-กันแดด (ห่อด้วยพลาสติกใสไม่มีสี รวมกับครีมวินเซิร์ฟและสบู่สมุนไพรทองพันชั่งผสมมะขาม) วันที่ผลิต 0250, 12/49 และ 04/50 ผลิตโดย บริษัท ฟรีเวย์ บิวตี้ จำกัด 21/217 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ
(25) พรีม โลชั่นป้องกันแสงแดด-ฝ้า (ขายพร้อมครีมทาสิว สูตรขาวเนียน บรรจุในกล่องกระดาษสีชมพูขาว) ผลิตโดยบริษัท พรีเม่ กรุ๊ป จำกัด 872/1084 ม.18 บางกะปิ กรุงเทพฯ เลขที่ผลิต 010609 วันที่ผลิต 28012005

เครื่องสำอางที่ตรวจพบไฮโดรควิโนนและกรดเรทิโนอิก ได้แก่
(26) DR"s Secret 4 skinrecon ฉลากระบุผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา เลขที่ผลิต 0604402E

ภก.วัฒนา ให้ข้อสังเกตว่า เครื่องสำอางที่พบสารอันตรายมักให้รายละเอียดบนฉลาก ไม่ครบถ้วน เช่น ไม่ระบุแหล่งผลิต ครั้งที่ผลิตและวันเดือนปีที่ผลิต การเลือกซื้อจึงควรระมัดระวัง และควรสังเกตฉลากเป็นลำดับแรก ฉลากที่ถูกต้องจะต้องเป็นภาษาไทย มีข้อความบังคับครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและประเภทผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ วิธีใช้ ชื่อที่ตั้งแหล่งผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และปริมาณสุทธิ การซื้อควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อเพราะคำโฆษณา สำหรับร้านค้าที่ซื้อเครื่องสำอางมาขาย ขอให้ซื้อจากผู้ที่มีหลักแหล่งน่าเชื่อถือ และมีหลักฐานการซื้อขายที่ระบุชื่อที่ตั้งของผู้ขายอย่างชัดเจน หากเจ้าหน้าที่ อย.ไปตรวจและผู้ขายไม่สามารถนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดงได้ ผู้ขายจะต้องมีความผิดเช่นเดียวกับผู้ผลิต ส่วนบทกำหนดโทษ ผู้ผลิตเพื่อขาย ผู้นำเข้าเพื่อขาย และผู้ขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยจะต้องถูกระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับรายชื่อเครื่องสำอางมีสารห้ามใช้ที่ อย.ได้ประกาศไปทั้งหมด ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.fda.moph.go.th คลิกไปที่ "กลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง" และ "เครื่องสำอางอันตราย" ซึ่งจะมีทั้งชื่อเครื่องสำอางพร้อมรายละเอียดและรูปภาพแสดงไว้

Thursday, June 4, 2009

องค์ประกอบ 7 ประการ เพื่อแต่งงาน แบบประหยัด


องค์ประกอบ 7 ประการเพื่อการแต่งงานแบบประหยัด


เมื่อความรักอันลึกซึ้ง กับเงินในกระเป๋ามันเดิน สวนทางกัน ก็ถึงเวลาที่คุณและแฟนหนุ่ม จะต้องหัน หน้า ปรึกษากัน ว่าจะเอากุ้งฝอยไปตกปลาวาฬ อย่างไรดี ก็จัดงานแต่งงานที่ดูดี แต่จ่ายน้อยนะซิคะ ทำได้แน่นอนค่ะถ้าคุณ ........

  • แต่งงานนอกฤดูกาลหลายคู่คิดว่าจะจัดงานแต่งงานให้เหมาะต้องจัดฤดูหนาว แหม! ยิ่งไปฮันนีมูนทางเหนือหรือไป ต่างประเทศซะเลยนี่ อะไรๆมันก็ดูดี และแสนจะโรแมนติค แถมได้โชว์เสื้อหนาวสีสันสดใส เวลาถ่าย รูปคู่ดูมีชีวิตชีวา เพราะอย่างนี้นะซิคะข้าวของต่างๆ รวมทั้งค่าสถานที่ ดอกไม้ ของชำร่วย มันถึงได้แพงเป็นเงาตามตัว อย่าลืมนะคะว่าเดี๋ยวนี้ เขาถือฤกษ์สะดวกกันแล้ว สะดวกเวลา กับสะดวกเงินในกระเป๋า อ่านต่อ..

Tuesday, June 2, 2009

ชวนมาพักผ่อน กับหาดทรายแสนสวย ที.. ปราณบุรี

ปราณบุรี อยู่ห่างจากหัวหินมาทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นชายหาด และป่าชายเลนของวนอุทยานปราณบุรี สำหรับชายหาดที่ปราณบุรีมีความยาวต่อเนื่องกันประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่มีความสวยงาม และท้องทะเลที่เงียบสงบ จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อน และเล่นน้ำทะเลในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ประกอบกับปราณบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ยังไม่มีผู้คนที่พลุกพล่านเหมือนชะอำและหัวหิน ปราณบุรีจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวอินเทรนด์อีกแห่งหนึ่ง ของนักท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งโรงแรม รีสอร์ทต่างๆที่มีไว้รองรับมีไอเดียการตกแต่งที่มีสไตล์แตกต่างจากที่อื่นๆ










แม้ว่าหัวหิน จะเป็นสถานตากอากาศยอดนิยมที่ประจวบคีรีขันธ์ แต่เพระความดังนี่แหละที่เป็นเหตุให้หัวหิน คึกคักมากจนเกินความจำเป็นในบางครั้ง พลอยทำให้คนที่อยากมาพักผ่อน เพื่อหาความสงบจริง ๆ ต้องเสาะแสวงหาที่เที่ยวแห่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา และที่นั่นก็คือ ที่ปราณบุรีนี่เอง
ปราณบุรี เป็นอำเภอที่อยู่ไม่ไกลจากอำเภอหัวหินนัก ขับรถเถลไถลไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงบริเวณชายหาดปากน้ำปราณที่มีรีสอร์ทเก๋ ๆ เรียงรายให้เลือกเข้าไปพักผ่อนมากมาย ฉันมาปราณบุรีหลายครั้งแต่ที่พักที่สมัครใจไปขออาศัยอยู่ด้วยมากที่สุด คือฟอเรสต้า รีสอร์ท ด้วยพี่เจี๊ยบเจ้าของรีสอร์ทนั้นมีน้ำใจเป็นที่สุด พอรู้ว่าเราจะมาก็เตรียมให้พี่แขก พ่อครัวหัวป่าก์ตั้งวงข้าวรอเลย แบบนี้รักกันตาย...แต่ก่อนจะไปที่ฟอเรสต้าฯนั้นเราก็แวะไปเมียงมองรีสอร์ทอื่น ๆ ที่ผุดขึ้นมาไม่ว่าเล่น มีทั้งที่เจ้าของเป็นคนในพื้นที่อย่างพี่เจี๊ยบ หรือเจ้าของเป็นคนกรุงเทพฯ แต่มีสตางค์มาซื้อที่ทางแถวนี้ทำรีสอร์ท ไว้ให้คนกรุงเทพฯ ด้วยกันมานอนเล่นเอาบรรยากาศ ราคาที่พักเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วที่ปราณบุรียังถูกกว่าที่หัวหินพอสมควร แต่หากพูดถึงการออกแบบ หรือลูกเล่นต่าง ๆ ที่มีอยู่ในรีสอร์ทนั้นก็ต้องบอกให้แบบไม่ได้เอาใจคนปราณบุรีเลยว่ารีสอร์ทที่ปราณบุรีนั้น เริ่ด ไม่แพ้ทางหัวหินเลยเชียว








































































ชายหาดที่ปราณบุรีนั้นค่อนข้างสงบเสงี่ยมเจียมตน ไม่วุ่นวายฟู่ฟ่าเหมือนหัวหิน พอตกกลางคืนหลังจากอิ่มหนำกับอาหารทะเลสดอร่อยที่มีให้เลือกชิมอยู่หลายร้านแล้ว เราก็นึกไม่ออกเลยว่าจะไปต่อที่ไหนดี จะไปสถานบันเทิงยามค่ำคืนก็ต้องขับรถกลับไปถึงหัวหินนู่น ดังนั้นพวกเราจึงสมัครใจกันนั่งรับลมเย็น ๆ ริมทะเลปราณบุรีแทน ได้นั่งดูแสงไฟวับแวมจากเรือไดหมึกที่ออกไปหาปลาในยามค่ำคืนก็เป็นความสุขไปอีกแบบเหมือนกัน แม้จะไม่มีเสียงอึกทึกเหมือนในผับอย่างที่เคยคุ้นก็ตาม แต่แล้วจู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งก็พูดทำลายความเงียบขึ้นว่า อยากจะออกเรือไปตกหมึกกับเขาบ้างจัง น่าสนุกดีนะ...แต่เสียใจด้วยจ้ะ เพราะป่านนี้เรือของชาวประมงเขาก็ลอยลำออกไปกลางทะเลหมดแล้วล่ะ เนื่องจากเขาออกเรือกันไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วกว่าจะกลับก็รุ่งเช้า เพื่อนำกุ้งหอยปูปลาที่จับได้มาขายที่บริเวณชายหาดนั่นเอง ไว้เราไปช้อปปิ้งปลาหมึกที่หมู่บ้านชาวประมงพรุ่งนี้แทนแล้วกัน















พอตอนเช้าเราทำตามสัญญาที่ว่าจะแวะไปที่หมู่บ้านชาวประมงของปราณบุรี แต่ไม่ต้องขับรถไปถึงหมู่บ้าน เราก็ได้เห็นเรือประมงมาจอดเทียบท่าอยู่ริมหาดมากมาย เขานำสัตว์น้ำที่หาได้ขึ้นมาวางขายกันที่เพิงริมถนนนั่นเอง ใครจะซื้อปูปลาจึงไม่ต้องขับรถเข้าไปไกลถึงหมู่บ้าน เพราะเขานำมาสินค้ามาป้อนให้ถึงที่ สด ๆ จากทะเลทั้งนั้นจ้า...จอดรถเสร็จฉันก็เดินเตร่เข้าไปคุยกับคุณพี่คุณน้าชาวเล ที่กำลังสาละวนกับการจับปูออกมาจากแหของพวกเขา คุณน้าคนหนึ่งบอกว่าปูกับปลาหมึกที่เราเห็นอยู่ในลังพลาสติกนั้น เพิ่งจะเอาเข้ามาเมื่อเช้ามืด บางตัวยังเป็น ๆ อยู่เลย เล่นเอาไม่กลับจับเพราะกลัวจะถูกปูหนีบเข้า ปูและหมึกพวกนี้คุณน้าเขาว่าไม่จำเป็นต้องเอาไปขายที่ตลาด เพราะมีลูกค้าจากร้านขายอาหารหรือรีสอร์ทแถวนี้มารับซื้อเองถึงที่ อย่างปูม้าเนี่ย เขาก็จะเอาไปดองน้ำปลา (กำลังนึกถึงส้มตำปูม้าอยู่พอดีเลยค่ะ) ส่วนพวกปลาหมึกก็แล้วแต่ สามารถนำไปทำอาหารได้หลายชนิด สุดแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน และถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์อาจจะมีคนกรุงเทพฯ ขับรถแวะเวียนมาเป็นลูกค้าบ้างเหมือนกัน คุณน้าให้ข้อมูลไว้เท่านั้นก่อนจะหันไปซ่อมแหที่ถูกกล้ามปูหนีบจนขาดเป็นริ้ว ๆ สายตาคุณน้าจับจ้องไปที่ท้องทะเล ก่อนจะพูดขึ้นเรียบ ๆ โดยไม่หันหน้าพวกเราด้วยซ้ำว่า น้ารีบซ่อมแห เพราะคืนนี้ต้องไปออกเรืออีก


























Add Image

ตำบลปากน้ำปราณ เดิมมีเชื่อเรียกว่า "ปากคลองปราณ" เนื่องจากมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านลงสู่ปากอ่าวทะเล และยังเป็นที่ตั้งสมาคมประมงแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ปากน้ำปราณ" จนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบ มีแนวยาวลงติดต่อกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มีพื้นที่ภูเขาสลับกับที่ราบลงสู่ทะเล เป็นดินปนทรายมีชายหาดทอดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 2.5 ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2.5 ตารางกิโลเมตร ภูมิอากาศเป็นแบบมรสุม มีฝนตกตลอดทั้งปี อากาศเย็นสบายและมีลมทะเลพัดผ่าน



อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดกับ ต.เขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ทิศใต้ ติดกับ ต.สามร้อยยอด กิ่ง อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทิศตะวันออก ติดกับ อ่าวไทยทิศตะวันตก ติดกับ ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปของตำบลปากน้ำปราณ เป็นที่ราบ มีแนวยาวลงมาติดต่อกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทย เป็นพื้นที่ภูเขาสลับกับที่ราบเทลงสู่ทะเล พื้นที่เป็นดินปนทรายมีชายหาดยาวประมาณ 2กิโลเมตร และมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านลงสู่อ่าวไทย

ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะทางภูมิอากาศเป็นแบบมรสุม มีฝนตกตลอดทั้งปี อากาศเย็นสบาย และมีลมทะเลพัดผ่าน มี 3 ฤดู คือ - ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ - มิถุนายน - ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์